เอสแอลซีกรุ๊ป (“บริษัท”) ได้มีการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าผู้รับบริการ ทั้งที่เป็นลูกค้าเป้าหมาย (ผู้ที่อาจเป็นลูกค้าในอนาคต) ลูกค้าปัจจุบัน และลูกค้าในอดีต (“ท่าน”) และเพื่อเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายลำดับรองหรือระเบียบปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง (“กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) บริษัทจึงได้ออกประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับลูกค้าผู้ใช้บริการฉบับนี้ โดยจัดทำขึ้นเพื่อชี้แจงรายละเอียดและวิธีการจัดการและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับมาจากลูกค้า รวมถึงชี้แจงวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และส่งต่อ ตลอดจนระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว และสิทธิของลูกค้าในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
ข้อ 1. คำนิยาม
คำศัพท์ | ความหมาย |
บริษัท | เอสแอลซีกรุ๊ป ซึ่งประกอบไปด้วยบริษัทที่มีรายชื่อปรากฏตามเอกสารแนบท้ายนี้ |
ข้อมูลส่วนบุคคล | ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ |
ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว | ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ถูกบัญญัติไว้ในมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ได้แก่ ข้อมูลเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด |
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล | บุคคลธรรมดาที่สามารถระบุตัวตนได้จากข้อมูลส่วนบุคคล เช่น บุคลากรของบริษัท ผู้สมัครงาน บุคคลในครอบครัว/บุคคลอ้างอิง/ผู้ติดต่อฉุกเฉินที่เกี่ยวข้องกับบุคลากรของบริษัทหรือผู้สมัครงาน ลูกค้า ผู้ใช้บริการ คู่ค้า ผู้เข้าชมเว็บไซต์ของบริษัท ผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ ผู้อนุบาลที่มีอำนาจกระทำการแทนคนไร้ความสามารถ ผู้พิทักษ์ที่มีอำนาจกระทำการแทนคนเสมือนไร้ความสามารถ เป็นต้น |
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล | บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล |
ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล | บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล |
การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล | การดำเนินการใดๆ กับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เก็บรวบรวม บันทึก สำเนา จัดระเบียบ เก็บรักษา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ใช้ กู้คืน เปิดเผย ส่งต่อ เผยแพร่ โอน รวม ลบ ทำลาย เป็นต้น |
กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล | พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง และให้หมายความรวมถึงกฎหมายฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใดๆ ในอนาคต |
การจัดทำข้อมูลนิรนาม | กระบวนการที่ทำให้ความเสี่ยงในการระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลนั้นเหลือน้อยมากจนแทบไม่ต้องบริหารจัดการความเสี่ยง (Negligible Risk) |
ข้อ 2. ช่องทางและแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า โดยบริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้
ข้อ 3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวม
ข้อ 4. ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ และคนไร้ความสามารถ
บริษัทกำหนดหลักเกณฑ์กรณีต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ หรือคนไร้ความสามารถ ไว้ดังนี้
"เว้นแต่บริษัทจะสามารถอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายอื่นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่เป็นผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ หรือคนไร้ความสามารถ ได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากลูกค้า ผู้ใช้อำนาจปกครอง ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาล
ข้อ 5. วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะขอข้อมูลของลูกค้าเพียงเท่าที่จำเป็นและกฎหมายอนุญาตเท่านั้น ทั้งนี้ หากบริษัทไม่สามารถทำการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าไปยังบุคคลภายนอกหรือโอนไปยังผู้รับในต่างประเทศ (ถ้ามี) ไม่ว่าด้วยเหตุใด บริษัทอาจจะไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาที่ทำกับลูกค้าได้ และในบางกรณีบริษัทอาจจะไม่สามารถให้บริการแก่ลูกค้าได้อีกต่อไป
บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของลูกค้าให้แก่บุคคลภายนอกหรือโอนให้แก่ผู้รับในต่างประเทศ (ถ้ามี) เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
ภายใต้หลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายดังต่อไปนี้ บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้แก่บุคคลภายนอกหรือโอนให้แก่ผู้รับในต่างประเทศ (ถ้ามี) ได้ โดยไม่ต้องขอรับความยินยอมจากลูกค้า
อย่างไรก็ตาม บริษัทจะอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายใน (ก) ถึง (จ) ข้างต้น เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้แก่บุคคลภายนอกหรือโอนให้แก่ผู้รับในต่างประเทศ (ถ้ามี) เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้เท่านั้น
บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้แก่บุคคลภายนอกหรือโอนให้แก่ผู้รับในต่างประเทศ (ถ้ามี) เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ เมื่อได้รับความยินยอมจากลูกค้า
บริษัทมีสิทธิเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือโอนข้อมูลที่มีความอ่อนไหวไปยังบุคคลภายนอกหรือโอนไปยังผู้รับในต่างประเทศ (ถ้ามี) ได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากลูกค้า ในกรณีดังต่อไปนี้
ในกรณีที่บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าในวัตถุประสงค์ที่ไม่ได้ระบุไว้ข้างต้น บริษัทจะจัดให้มีประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) เพิ่มเติม เพื่ออธิบายการใช้ข้อมูลในวัตถุประสงค์ดังกล่าวและแจ้งให้ลูกค้าทราบก่อน
หากจำเป็น บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแบบอ่อนไหวของท่านโดยได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น พร้อมใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอเพื่อปกป้องคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของท่าน ทั้งนี้ ท่านมีสิทธิในการถอนความยินยอมที่ให้ไว้กับบริษัทได้ตลอดเวลา ซึ่งการถอนความยินยอมนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้ว และการที่ท่านถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้กับบริษัทหรือปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลบางอย่าง อาจส่งผลให้บริษัทไม่สามารถดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์บางส่วนหรือทั้งหมดตามที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ได้
ข้อ 6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจเปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้แก่บุคคลภายนอก (รวมถึงบุคลากรและตัวแทนของบุคคลภายนอก) ภายในประเทศไทยหรือนอกประเทศไทยดังต่อไปนี้ ซึ่งประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้บริการทางการแพทย์แก่ลูกค้า หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ ตามที่ระบุในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โดยลูกค้าสามารถอ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกเหล่านั้นเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่บุคคลภายนอกดังกล่าวประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าได้
บริษัทจะให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่ผู้ให้บริการของบริษัทเพียงเท่าที่จำเป็นสำหรับการให้บริการโดยผู้ให้บริการดังกล่าวเท่านั้น และบริษัทจะดำเนินการให้เป็นที่มั่นใจว่าผู้ให้บริการทุกรายที่บริษัททำงานด้วยจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าไว้อย่างปลอดภัยและจะไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดนอกจากเพื่อการให้บริการแก่บริษัทเท่านั้น
กรณีที่บริษัทอาจจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ส่งข้อมูลไปยังระบบคลาวด์ (Cloud) ที่มีแพลตฟอร์มหรือเครื่องแม่ข่ายอยู่ต่างประเทศ บริษัทจะดำเนินการเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ส่งหรือโอนไปมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอตามมาตรฐานสากล หรือดำเนินการตามเงื่อนไขเพื่อให้สามารถส่งหรือโอนข้อมูลนั้นได้ตามกฎหมาย
ข้อ 7. ระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ที่ได้ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ โดยหลักเกณฑ์ที่ใช้กำหนดระยะเวลาเก็บรักษา ได้แก่ ระยะเวลาที่บริษัทดำเนินความสัมพันธ์กับท่าน ดังต่อไปนี้
เมื่อพ้นระยะเวลาที่กำหนดแล้ว บริษัทจะดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือดำเนินการอื่นใดตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด เพื่อให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจจะเก็บรักษาข้อมูลบางอย่างไว้นานกว่าที่ระบุข้างต้น หากจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามอายุความทางกฎหมาย เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานหรือหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจผู้เกี่ยวข้อง เพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจหรือเพื่อเหตุอื่นตามนโยบายและข้อกำหนดภายในองค์กรของบริษัท
ข้อ 8. การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทได้มีการเลือกใช้ระบบการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่มีกลไกและเทคนิคที่เหมาะสม และจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
ข้อ 9. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิดังต่อไปนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ทั้งนี้ หากท่านประสงค์ที่จะขอใช้สิทธิของท่าน ท่านสามารถขอใช้สิทธิผ่าน “แบบคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Subject Right Request Form)” โดยท่านสามารถติดต่อบริษัทตามข้อมูลติดต่อข้อ 10
การถอนความยินยอมจะไม่กระทบต่อความชอบด้วยกฎหมายของการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของท่านตามความยินยอมของท่านก่อนที่จะขอถอนความยินยอม หรือการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย และการโอนข้อมูลที่ละเอียดไปยังบุคคลภายนอกหรือโอนไปยังผู้รับในต่างประเทศ (ถ้ามี) ที่บริษัทมีสิทธิดำเนินการได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากท่าน
บริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดที่จะดำเนินการตามการร้องขอของท่านภายในระยะเวลาที่สมเหตุสมผลและไม่เกินระยะเวลาที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ทั้งนี้ ในการใช้สิทธิของท่านตามที่ระบุไว้ในข้อ 9.1 ถึง 9.8 ข้างต้น เป็นสิทธิที่มีข้อจำกัดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งบริษัทอาจปฏิเสธการใช้สิทธิของท่านได้หากบริษัทมีเหตุโดยชอบด้วยกฎหมายในการปฏิเสธการใช้สิทธิดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม การใช้สิทธิในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ ย่อมจำกัดไว้แต่เพียงแต่การให้บริการพื้นฐานที่ไม่ทำให้บริษัทในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลเกิดค่าใช้จ่ายที่เกินความจำเป็น หากการใช้สิทธิของท่านได้ก่อให้เกิดค่าธรรมเนียมและ/หรือค่าใช้จ่ายเพื่อการดำเนินการตามคำร้องขอของท่าน ท่านจะต้องรับผิดชดใช้คืนเงินค่าดำเนินการต่าง ๆ ที่มีการขอใช้สิทธิเช่นว่านั้นแก่บริษัท
ข้อ 10. วิธีการติดต่อ
หากลูกค้ามีความประสงค์ที่จะใช้สิทธิที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า หรือหากลูกค้ามีข้อสงสัยหรือเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทที่
ทั้งนี้ หากท่านประสงค์จะขอใช้สิทธิอย่างใดอย่างหนึ่งข้างต้นตามข้อ 9 สามารถติดต่อบริษัทตามรายละเอียดการติดต่อข้างต้น หรือกรอก “แบบคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Subject Right Request Form)”
ข้อ 11. การปรับปรุงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้
บริษัทอาจแก้ไข ทบทวน และปรับปรุงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่สำคัญด้วยช่องทางที่เหมาะสม เพื่อความมีประสิทธิภาพในการให้บริการ บริษัทจึงขอแนะนำให้ท่านอ่านประกาศความเป็นส่วนตัวทุกครั้งที่เยี่ยมชม หรือใช้บริการจากบริษัท หรือเว็บไซต์ของบริษัท
ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566
ปรับปรุงล่าสุด: วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567